medicalfocusth

เดือนมกราคม ร่วมรณรงค์ต้านภัยมะเร็งปากมดลูก
เดือนมกราคม ร่วมรณรงค์ต้านภัยมะเร็งปากมดลูก
สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ ขอเชิญชวนประชาชนร่วมรณรงค์ต้านภัยมะเร็งปากมดลูก แนะนำหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรค ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำ และฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ HPV

นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า มะเร็งปากมดลูกถือเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2532 ซึ่งพบอุบัติการณ์การเกิดมะเร็งปากมดลูกสูงเป็นอันดับหนึ่งในผู้หญิงไทย จากนั้นมีการผลักดันนโยบายการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกระดับประเทศขึ้นทำให้อุบัติการณ์มะเร็งปากมดลูกมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องโดยปัจจุบันมะเร็งปากมดลูกจัดอยู่ในอันดับ 5 ของมะเร็งที่พบบ่อยในผู้หญิงไทย มีผู้ป่วยรายใหม่เฉลี่ยวันละ 15 ราย หรือ 5,422 คนต่อปี (Cancer in Thailand Vol.X 2016-2018 สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข) และเสียชีวิตเฉลี่ย วันละ 6 ราย หรือ 2,238 คนต่อปี (สถิติสาธารณสุข พ.ศ.2562 กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข)

มะเร็งปากมดลูกมีสาเหตุหลัก ๆ มาจากการติดเชื้อไวรัส Human Papillomavirus (HPV) ที่ติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ ดังนั้น การมีคู่นอนหลายคน การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย จึงเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น นอกจากนี้ การสูบบุหรี่ การมีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ ก็เป็นอีกปัจจัยร่วมที่อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคอีกด้วย อาการที่เป็นสัญญาณเตือนของมะเร็งปากมดลูก ได้แก่ มีตกขาว เลือดหรือของเหลวที่ผิดปกติออกทางช่องคลอด ประจำเดือนมามากหรือนานกว่าปกติ ในระยะลุกลามอาจมีอาการปวดหน่วงบริเวณท้องน้อย ปัสสาวะขัดหรือถ่ายอุจจาระลำบาก เบื่ออาหาร น้ำหนักลด เป็นต้น


นายแพทย์ศุภกร พิทักษ์การกุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญมะเร็งวิทยานรีเวช สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวว่า ในเดือนมกราคมของทุกปีองค์กรด้านโรคมะเร็งต่าง ๆ ทั่วโลกจะร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์ต้านภัยมะเร็งปากมดลูกเพื่อสร้างความตระหนักด้านการป้องกันโรคให้กับประชาชน สำหรับประเทศไทยก็มีหน่วยงานหลายภาคส่วนได้ร่วมรณรงค์ในโอกาสนี้เช่นกัน ในด้านนโยบายระดับประเทศมีการผลักดันให้การฉีดวัคซีน HPV โดยกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กผู้หญิงในชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งถือเป็นวัยก่อนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกจึงเหมาะสมในการได้รับวัคซีน อย่างไรก็ตามการฉีดวัคซีนยังไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสได้ทั้งหมด ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วยังคงต้องตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกควบคู่ไปด้วยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันโรคให้ได้มากที่สุด ปัจจุบันการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี HPV test ได้รับการผลักดันให้เป็นนโยบายของประเทศ ผู้หญิงไทยอายุระหว่าง 30-60 ปี สามารถเข้ารับบริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี HPV Test ได้ที่โรงพยาบาลตามสิทธิ์การรักษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

มะเร็งปากมดลูกเป็นหนึ่งในมะเร็งที่เราสามารถป้องกันได้จากการปฏิบัติตนเพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรค รวมถึงการเข้ารับการตรวจคัดกรอง ซึ่งหากตรวจพบโรคในระยะเริ่มแรกจะทำให้การรักษาได้ผลดีมีโอกาสหายขาดจากโรคได้ ท่านสามารถติดตามความรู้ข่าวสารด้านโรคมะเร็งจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ส่งเสริมความรอบรู้สู้ภัยมะเร็ง http://allaboutcancer.nci.go.th/ เว็บไซต์ต่อต้านข่าวปลอมโรคมะเร็ง https://thaicancernews.nci.go.th/_v2/ และ Line : NCIรู้สู้มะเร็ง