medicalfocusth

กรมอนามัย เผยผลงานวิจัยชี้ผู้สูงอายุเดิน 6,000 ก้าวต่อวัน ช่วยป้องกันโรคหัวใจ
กรมอนามัย เผยผลงานวิจัยชี้ผู้สูงอายุเดิน 6,000 ก้าวต่อวัน ช่วยป้องกันโรคหัวใจ
กรมอนามัย เผยผลการวิจัย ชี้ผู้สูงอายุเดินอย่างน้อย 6,000 ก้าวต่อวัน ป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยถึงผลการวิจัยจากวารสาร The Lancet โดย Assistant Professor Amanda Paluch และคณะ ซึ่งศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนก้าวเดินในแต่ละวันกับการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยวิเคราะห์ข้อมูลจาก 8 การวิจัยขนาดใหญ่ใน 40 ประเทศทั่วโลก โดยติดตามจำนวนก้าวเดินของผู้ใหญ่ อายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 20,152 คน เริ่มตั้งแต่ยังไม่เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นระยะเวลาเฉลี่ย 6 ปี โดยเปรียบเทียบผู้ที่มีการก้าวเดินจำนวน 2,000 ก้าวต่อวัน กับผู้ที่เดิน 4,000 ก้าว 6,000 ก้าว และ 9,000 ก้าวต่อวัน พบว่า จำนวนก้าวต่อวันสามารถช่วยลดการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ได้ร้อยละ 20 , 38 และ 49 ตามลำดับ (Hazard ratio = 0.80, 0.62 และ 0.51) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

มีการควบคุมปัจจัยร่วมอื่นๆ เช่น อายุ เพศ การศึกษา รายได้ ดัชนีมวลกาย การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ ภาวะความดันโลหิตสูง เบาหวาน เป็นต้น

ด้านนายแพทย์อุดม อัศวุตมางกุร ผู้อำนวยการกองกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาพ กล่าวว่า ผลการวิจัยนี้สอดคล้องกับข้อแนะนำการก้าวเดินของประเทศไทย ภายใต้แผนการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย พ.ศ.2561-2573 โดยความร่วมมือของกระทรวงสาธารณสุข เครือข่ายคนไทยไร้พุง โรงพยาบาลรามาธิบดี คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นต้น ที่แนะนำให้ผู้สูงอายุเดินให้ได้อย่างน้อยวันละ 5,000 ก้าว เพื่อป้องกันการหกล้ม เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อให้ทรงตัวดีขึ้น และหากมีการเดินเพิ่มมากขึ้นเป็นวันละ 7,000 – 10,000 ก้าว จะช่วยป้องกันโรคไม่ติดต่อ และเพิ่มสมรรถภาพทางกายให้ดีขึ้น ช่วยให้ผู้สูงอายุมีการเคลื่อนไหวที่ดี ป้องกันการ
หกล้ม ใช้ชีวิตอย่างกระฉับกระเฉง ช่วยเหลือตนเองได้ และเป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป