ตลอดจนเป็น "พี่เลี้ยง" จัดอบรมถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับกลุ่มประเทศที่มีรายได้ต่ำ และรายได้ปานกลาง ผ่าน "หน่วยวิจัยและฝึกอบรมร่วม มหาวิทยาลัยมหิดล – มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด" (Harvard University and Mahidol University Research and Training Unit) การที่ภูมิภาคอาเซียนมีห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์ที่ก้าวหน้าอยู่ที่ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล จะช่วยเพิ่มความคล่องตัว และช่วยลดต้นทุนและระยะเวลาที่ต้องใช้ในการส่งตัวอย่างไกลถึงยุโรป หรืออเมริกา
ปัจจุบัน หน่วยวิจัยและฝึกอบรมร่วม มหาวิทยาลัยมหิดล - มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University and Mahidol University Research and Training Unit) ดำเนินการพัฒนาเทคนิควิธีการวิเคราะห์ ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญได้ถึง 10 กลุ่มตัวอย่าง อาทิ ปริมาณไอโอดีนในปัสสาวะ วิตามินบี12 วิตามินดี วิตามินอี โฟเลต ซีเลเนียมในเลือด เป็นต้น ให้สามารถวิเคราะห์ได้ครั้งละจำนวนมาก ด้วยความรวดเร็ว โดยมีต้นทุนที่ต่ำลง
ซึ่งการจะทำให้ หน่วยวิจัยและฝึกอบรมร่วม มหาวิทยาลัยมหิดล - มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University and Mahidol University Research and Training Unit) ที่กำลังอยู่ระหว่างเตรียมพร้อมขยายศักยภาพ ก้าวสู่ความเป็นเลิศ และเกิดความยั่งยืน รองศาสตราจารย์ ดร.ชลัท ศานติวรางคณา มองว่าสำคัญที่การสร้าง "จุดแข็ง" ด้วยการสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งทั้งภายในและภายนอกประเทศมารองรับ จนมีศักยภาพเพียงพอที่จะเป็น "แกนกลาง" (Core) หรือฟันเฟืองหลักของภูมิภาค และของโลกได้ต่อไปในที่สุด