medicalfocusth

องค์การเภสัชกรรมเดินหน้าวิจัย พัฒนา ยาต้านไวรัสเอดส์ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาที่เหมาะสม ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
องค์การเภสัชกรรมเดินหน้าวิจัย พัฒนา ยาต้านไวรัสเอดส์  อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาที่เหมาะสม ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ดร.ภญ.นันทกาญจน์ สุวรรณปิฎกกุล รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคเอดส์ทั่วโลก พบว่าในปี 2565 มีผู้ติดเชื้อทั่วโลก สะสม 39 ล้านคน เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1.3 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิต 630,000 คน สำหรับประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เผชิญกับปัญหาการระบาดของโรคเอดส์มาอย่างต่อเนื่อง จากการคาดประมาณข้อมูลผู้ติดเชื้อ ณ วันที่ 27 เม.ย.66 พบว่ามีผู้ติดเชื้อที่ยังมีชีวิตอยู่ จำนวน 560,000 คน เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 9,200 คน (เฉลี่ย 25 คน/วัน) และมีผู้เสียชีวิต จำนวน 11,000 คน/ปี (เฉลี่ย 30 คน/วัน) และที่น่าเป็นห่วงคือในกลุ่มผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นเยาวชนช่วงอายุ 15-24 ปี ถึงร้อยละ 47 เพื่อให้ผู้ป่วยได้มีทางเลือกใหม่ เข้าถึงยามากขึ้น และมีชีวิตที่ยืนยาว ดำรงอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข

องค์การเภสัชกรรมจึงได้คิดค้น วิจัย และพัฒนายากลุ่มใหม่ๆ ตามแนวทางการรักษาใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งติดตามแนวโน้มการพัฒนาและการใช้ยาทั่วโลก ซึ่งมีแนวคิดในการใช้ยาที่มีจำนวนน้อยลง เช่น การใช้ยาสูตรผสม 2 ตัวในการรักษาแทนการใช้ยาสูตรผสม 3 ตัว หรือการใช้ยาที่มีความถี่ในการรับประทานยาน้อยลง ทำให้รับประทานยาได้ง่ายขึ้น และลดผลข้างเคียง แต่ยังคงให้ประสิทธิผลในการออกฤทธิ์เท่าเดิมหรือดีขึ้น ส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีวินัยในการรับประทานยาและลดการดื้อยาได้ ทั้งหมดทั้งมวลเพื่อส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งปัจจุบัน อภ.มีการพัฒนาทั้งยาต้านไวรัสเอดส์สูตรที่มี Dolutegravir ตามแนวทางการรักษาล่าสุด และยารักษาโรคแทรกซ้อน เช่น ยาต้านไวรัสตับอักเสบบีที่ลดการดื้อยา และ ยาต้านไวรัสตับอักเสบซีที่รักษาครอบคลุมได้ทุกสายพันธุ์ โดยขณะนี้ยาหลายรายการได้รับอนุมัติทะเบียนตำรับยาจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และเริ่มทยอยออกสู่ผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2566 จนถึงปี 2567

รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวต่อไปว่า องค์การเภสัชกรรมยังคงมีความมุ่งมั่นในการวิจัยและพัฒนายากลุ่มใหม่และยาสูตรใหม่ที่ใช้ในการรักษาและการป้องกันอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ รวมทั้งมีการปรับราคายาลดลง เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงยาได้มากขึ้น หากผู้ป่วยได้รับยาอย่างรวดเร็ว มีทางเลือกในการใช้ยาที่เหมาะสม จะสามารถส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ดังคำกล่าวที่ว่า “เอดส์รู้เร็วรักษาได้” โดยองค์การเภสัชกรรมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการยุติเอดส์ภายใต้แนวคิดการรณรงค์ “Let Communities Lead” ที่มุ่งเน้นให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการสนับสนุนชุมชน องค์กร และกลุ่มต่างๆโดยเฉพาะเยาวชน ให้ตระหนักถึงการป้องกัน และเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อน มุ่งสู่เป้าหมายยุติปัญหาเอดส์ (Ending AIDS) ภายในปี 2573

นอกจากนี้องค์การเภสัชกรรมยังได้ร่วมจัดกิจกรรมในงานเทียนส่องใจ เนื่องในวันเอดส์โลก ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2566 ณ ชั้น M1 อาคารรัตนวิทยาพัฒน์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โดยองค์การเภสัชกรรมมีการจัดนิทรรศการภายใต้แนวคิด การวิจัย พัฒนา และผลิตยาเพื่อรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ โดยถ่ายทอดผ่านเรื่องราวความเป็น HERO ขององค์การเภสัชกรรม ในการใช้อาวุธ (ยา) ต่อสู้กับศัตรูตัวร้ายคือ เชื้อไวรัสเอชไอวี/เอดส์ และสื่อสารความรู้ถึงกระบวนการที่ยาต่อสู้กับเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ภายในบูธยังมีกิจกรรมถ่ายภาพ Photo booth ทำ Tag กระเป๋า และเกมทุบไวรัสเอดส์ และในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 ระหว่าง เวลา 13.00 – 13.45 น. องค์การเภสัชกรรมร่วมกิจกรรมการเสวนาบนเวทีกลางของงาน ในหัวข้อ “ARV & ME อาวุธคู่สู้เอดส์” โดยดร.ภญ.รัชนีกร เจวประเสริฐพันธุ์ ตำแหน่ง รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายบริหารพัสดุและผลิตภัณฑ์ ฝ่ายบริหารพัสดุและผลิตภัณฑ์ และ ดร.ภญ.จิราพร มงคลปิยวัฒน์ ตำแหน่ง หัวหน้าแผนกวิจัยเภสัชภัณฑ์ 1 กองวิจัยเภสัชภัณฑ์และนวัตกรรม ฝ่ายวิจัยพัฒนาและนวัตกรรม